วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

link รวบรวมเที่ยว Norway 14 วัน

เที่ยวใน Oslo 2วันครึ่ง และหลังจากนั้น 11วันครึ่ง ก็ขับรถเที่ยว ตามจุดดาว...ขับรถ 3,009 กม.
เที่ยวเยอะมากแต่ค่าใช้จ่าย คนละห้าหมื่นบาท... ทำได้ไง...
ก็เที่ยวแบบ สุข สนุกประหยัดตามสไตล์ สามเฒ่าพาเที่ยวไง...ต้องตามไปดู
การเตรียมตัว
ตอน 1: บทเรียกน้ำย่อย .... เที่ยว Norway ไม่แพงอย่างที่คิด...ไปดูว่ามีการใช้จ่ายค่าอะไรบ้าง
       https://pantip.com/topic/35291074

✈ ตอน 2: การเตรียมตัว จะต้องเตรียมอะไรบ้าง
        https://pantip.com/topic/35298680

✈ ตอน3 : เมื่อถึง Oslo ต้องซื้อ? และเรื่องที่เกี่ยวกับรถ
        https://pantip.com/topic/35599476

ออกเที่ยว
💃วันที่ 1: BKK-Oslo, Operahouse, Akrobaten bridge
            https://pantip.com/topic/35386408

💃วันที่ 2: เที่ยว Oslo ด้วย Oslo Pass
            https://pantip.com/topic/35464386

💃วันที่ 3: Waterfall and Parliament in Oslo , 🚗 Heddal Stave Church
            https://pantip.com/topic/35599476

💃วันที่ 4: Dorgefoss waterfall, Kjeragbolten , ที่พัก Selvikveien 35, Sandnes
              https://pantip.com/topic/35599509

💃วันที่ 5: National route 13 กัน ,ขึ้น ferry ครั้งแรก และที่พักวิว สุโค้ยจริงๆ
            https://pantip.com/topic/35923367

💃วันที่ 6: น้ำตก Langfoss, Låtefossen , ส่องดูธารน้ำแข็ง Buarbreen , Eidfjord และที่ราบสูง Hardangervidda
            https://pantip.com/topic/35924151

💃วันที่ 7: ยามเช้าที่ราบสูง Hardangervidda, Wow! วงเวียนในอุโมค์ ,  Hardanger fjord, น้ำตก Steinsdalsfossen และ เมื่องเก่ามรดกโลก Bergen
          https://pantip.com/topic/36016829

💃วันที่ 8:  Voss ดูลายพระหัตน์ ร.5 ที่ Fleischers Hotel, , Bordalsgjelet Gorge , น้ำตก Tvindefossen,  Stalheimskleiva, หุบเขา Nærøydalen, Gudvangen, หมู่บ้าน Bakka จุดที่แคบของ Nærøy fjord,  Stegastein viewpoint และ twilight ที่ Snow road
          https://pantip.com/topic/36072165

💃เที่ยววันที่ 9: Snow road (Aurlandsfjellet) , Hiking ที่ Nigardsbreen ,  National route 55 (Sognefjellet) และพักที่ Mogard
          https://pantip.com/topic/36154472
     

วันที่ 10 ความงาม Geiranger ,ดูนก Puffin ที่Runde Island 
 🔎 10.1 ความงามทะเลสาบ Breiddalsvatnet ตามถนนสาย 15 
 🔎 10.2 ชมวิว Geirangerfjord ที่จุดชมวิว “ดาล์สนิบบา” (Dalsnibba)
 🔎 10.3 Flydalsjuvet view point 
 🔎 10.4 Ørnevegen to 620 m. above sea level at Korsmyra 
 🔎 10.5 Ørnevegen to Stryn แวะดูงานวัดฝรั่ง
 🔎 10.6 Stryn to Runde island,To see Puffin
 🔎 10.7 ที่พัก Lanternen Marina 

วันที่ 11 เมืองเทพนิยาย และ Atlantic Road
 🔎 11.1 Ålesund เมืองเทพนิยาย
 🔎 11.2 Atlantic Ocean Road

วันที่ 12 วิวสวยถนน No.64, Trollstigen,ถนน No. E136
  🔎  วันที่ 12.1 แวะ Klungnes, unseen ที่รอให้ไปเยี่ยม
  🔎  วันที่ 12.2  Trollstigen
  🔎  วันที่12.3 Trollveggen หน้าผาของ Troll
  🔎  วันที่ 12.4 Kylling Bridge
  🔎  วันที่12.5 น้ำตก Slettafossen
  🔎  วันที่ 12.6 โรงเลื้อยพลังน้ำเก่าแก่ Sagelva Vasskraftsenter
  🔎  วันที่ 12.7 สำรวจที่พัก Jotunheimen Adventure

วันที่ 13 ทุ่งไลเคนและ เส้นทาง Valdres
  🔎  วันที่ 13.1 Amazing! ทุ่งไลเคน..ของแปลกไม่เคยเห็นมาก่อน 
  🔎 วันที่ 13.2   Øvre Sjodalsvatnet, แม่น้ำSjoa  และ Gjendeosen
  🔎 วันที่ 13.3  Vargebakkane, Steinplassen, Rjupa  
  🔎 วันที่ 13.4 บทส่งท้าย: แสงอาทิตย์ยามเที่ยงคืนที่ Strande Fjord  





วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560

Review King power Lounge@ Suvarnabhumi Airport

✏ เล่าเรื่องโดย สามเฒ่าพาเที่ยว
check in เพื่อ Bag Drop
จากนั้นผ่านตม.และจุดสแกนกระเป๋าแล้วเดินออกมาก็จะเจอกับปฏิมากรรม
“กวนเกษียรสมุทร” หรือชื่อเต็มคือ “เทวตำนานกวนเกษียรสมุทร (Scene of the Churning of the Milk Ocean)”

    เวลามากพอก่อนขึ้นเครื่อง ก็ไปใช้บริการ king power lounge กันก่อนดีกว่า
ก็ให้เลี้ยวซ้ ายเดินตรงไปยังเกือบสุดทาง จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย เดินมานิดหนึ่งก็จะถึง จากนั้นยื่นบัตรสมาชิกหรือบัตรเครดิต SCB Kingpower ให้กับพนักงานที่เคาน์เตอร์ได้เลย
        สำหรับห้องรับรองของ King Power จะมีอยู่สองแบบคือ ห้องสำหรับบัตรสมาชิกแบบธรรมดา และห้องสำหรับบัตรแบบ VIP ซึ่งสามเฒ่าพาเที่ยวมีสิทธิเข้าห้องธรรมดา อด review ห้อง VIP เลยอะ
       เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับมุมนั่งเล่นและเคาน์เตอร์กลางซึ่งมี อาหาร ของว่าง ขนม และเครื่องดื่ม มี TV, Wifi ก็มีด้วยนะ
จากที่เคยเข้าไปใช้ ถ้าช่วงเช้าก็จะมีข้าวต้ม ช่วงกลางวันก็จะมีข้าวผัด ถ้าเป็นช่วงค่ำก็จะไม่มีข้าวมีขนมแทน แบบเบาๆ



                                           อิ่มแล้วขึ้นเครื่องกันเลย.....✈✈✈✈✈✈




วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560

การจัดกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ

 เล่าเรื่องโดย สามเฒ่าพาเที่ยว

       เพื่อการไม่ลืมอะไร ให้จดของที่จะเอาไป และ
      ☑ทำ Check List  สำหรับตอนจัดของลงกระเป๋า
อย่างสามเฒ่าพาเที่ยวก็จะมีการเตรียมรายการดังนี้
1. เสื้อผ้า  ก็ให้เหมาะกับอากาศประเทศที่เราจะไป  เช่นประเทศที่หนาว และลมแรงๆ ก็ต้องใช้เสื้อกันลมและกันฝนได้พอประมาณ ถ้าไม่มีขอบอกว่าหนาวฝุดๆ 

2. ของใช้ส่วนตัว 
● แว่นกันแดด       ● เข็มขัด        ● หมวก +ถุงมือ   

● ถุงพลาสติก หลายใบเอาไว้ใส้เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว และใส่ของเวลาไป Super เพราะถ้าจะเอาถึงต้องจ่ายเงินเพิ่ม      

● ของใช้ล้างหน้าอาบน้ำสระผม  ● ครีมกันแดด  

● เครื่องสำอาง+ครีมบำรุงผิว       ● หวี                   ● ทิชชู่เปียก 

● ถุงสำหรับใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว       ● ขวดใส่น้ำดื่มระหว่างเที่ยว  

● ยาสีฟัน+แปรง   ● ร่ม                ● เสื้อกันฝน       ●กรรไกรตัดเล็บ 

● ปากกา               ● น้ำยาบ้วนปาก (ช่วยฆ่าเชื้อในลำคอตอนเป็นหวัด)

  👱 สาวๆ อย่าลืมเอาของสำคัญของผู้หญิงไปด้วยนะคะ นั้นคือ ผ้าอนามัย 
        Auntie Molly เคยต้องจำใจซึ้อในราคาสองร้อยกว่าบาทมาแล้ว

  👳 ส่วนหนุ่มๆ อย่าลืมเอาที่โกนหนวดไปด้วยนะคะ เดี๋ยวถ่ายรูปไม่หล่อนะ 

*** พวกของเหลวถ้ากล้วหกใส่เสื้อผ้าในกระเป๋า ให้เอาแผ่นพลาสติกวางที่ปากขวด แล้วหมุดจุกปิด แล้วป้องกันอีกทีก้ใส่ในถุงซิปล๊อกอีกชั้นหนึ่ง
ภาพจาก 5-Minute Crafts

● ไม้เท้าเดินป่า Trekking pole (ถ้าแผนเที่ยวมี hiking) ● รองเท้าแตะ 

● รองเท้าที่ใส่สบายในการเดิน แต่ถ้าต้องเดินย้ำหิมะ หรือ Hiking ต้องใช้รองเท้าที่กันน้ำและกันลื่นได้นะ 



ในกรณีที่พักเราแบบประหยัดอาจจะไม่มีผ้าขนหนู ก็ให้เอาผ้าเช็ดตัวติดไปด้วยนะ 

 สำหรับที่พักประหยัดที่เจอที่ Norway ต้องจ่ายค่าเช่าผ้าปูที่นอน,ปลอกนวม  

ติดถุงนอนไปเลยสะดวกกว่า





3. Gadget เช่น
 โทรศัพท์มือถือ                         อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์                   กล้องถ่ายรูป         
 ไฟฉาย
Note book เอาไว้ Load รูป          memory card, external drive     กุญแจ ล๊อคกระเป๋า

 ที่แปลงหัวปลั๊กไฟประเทศนั้นๆ       สายพ่วง                                   rocket wifi/GPS

 4.อุปกรณ์สำหรับการกิน
 มีดปอกผลไม้                          
 หม้อหุงข้าว(ถ้าไปเที่ยวที่ทำอาหารกินเอง)       
 กล่องใส่อาหาร แทนจานชาม และการเก็บอาหารกินระหว่างทาง



ส่วนช้อนส้อม อาจไม่ต้องเอาไป ถ้าสายการบินที่เราไปมีอาหารให้กินก็เก็บช้อนส้อมมาใช้ต่อ

5. ยา
  • ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ไข้,ยาดม, ยาหม่อง, พลาสเตอร์ยา, ยาแก้ท้องเสีย, ยาคลายกล้ามเนื้อยาแก้หวัด,ยาแก้ไอ, vit.C
  • ยาประจำตัว  อันนี้ดูว่าต้องห้ามสำหรับเข้าประเทศนั้นหรือเปล่า
ดูเพิ่มเติมที่ https://2baht.com/medicine-for-travel/


6. เอกสาร
E-ticket                   Passport                 สำเนา Passport หรือถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือ       
 แผนการเดินทาง     Hotel Reservation      Travel insurance 

 เอกสารจองรถ(ถ้าเช่ารถขับ)
 บัตรเครดิต(ในยุโรป หรือ NZ อาจต้องใช้ Pin No. สำหรับเติมน้ำมันแบบที่ไม่รับเงินสด)



7 การขนอาหาร ขนม เข้าประเทศที่ไปเที่ยว ...แล้วแต่ว่าประเทศนั้นเข้มงวดหรือไม่

ไป Norway ปี 2016 ไม่ตรวจอะไร

✈ ส่วน ประเทศนิวซีแลนด์ค่อนข้างจะเข้มงวดในเรื่องของของสด ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้หรืออื่น 
ถ้าอยากรู้ว่าเขาห้ามอะไรบ้าง ก็เข้าไปดู http://www.biosecurity.govt.nz/enter/declare



แต่ถ้าไม่แน่ใจกลัวโดนปรับ ก็เข้าช่อง declare ให้เข้าตรวจดู พร้อมกับแนบ เอกสารว่าเราเอาอะไรไปบ้าง

ตอนที่แสดงเจ้าหน้าที่ถามว่า "คุณเอามาเยอะเกินไป"
ก็ตอบไปว่า   " แผนเที่ยวเที่ยวอยู่ในป่า ไม่รู้ว่าจะมีของกินขายที่ไหน จึงเอามาเผื่อไว้"
ผลก็คือผ่านเพราะเราไม่มีของสด

แต่ถ้าใครเอาของสดเข้า เขาก็เอาไปทิ้ง...แล้วเราก้ไม่โดนค่าปรับ แต่ถ้าไม่ declare ถ้าตรวจเจอ ค่าปรับอานเลยนะ


โดยแสดง declare list 


เอาละไปจัดของเที่ยวกันได้เลย...❤☺☺☺❤